top of page

เคาะทุกความเชื่อ เมื่อน้องแมวเป็นหวัด


ถ้าให้พูดถึงโรคที่เกิดจากแบคทีเรียและไวรัสที่น้องแมวมักจะชอบเป็นกันและสามารถติดต่อกันได้ภายในหมู่แมวด้วยกันเอง โรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทั้งน้องแมวเด็กและแมวที่โตเต็มวัย คงจะหนีไม่พ้นกับการเป็นหวัดของน้องแมวแน่นอน แต่ถึงแม้การเป็นหวัดของน้องแมวจะไม่ได้เป็นกลุ่มอาการที่รุนแรงมากนัก แต่ทุกครั้งเวลาได้เห็นน้องแมวเป็นหวัดทีไร เหล่านุดอย่างเราก็ใจบางทุกที อยากหาวิธีที่จะช่วยให้น้องหายไว ๆ กลับมาสดใสได้เหมือนเดิม


ซึ่งถ้าถามถึงการแก้ปัญหาเวลาน้องแมวเป็นหวัด นุดอย่างเราก็จะมีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันใช่มั้ยคะ ไหนนุดสารภาพกันมาซะดี ๆ ว่าเวลาน้องแมวส่งสัญญาณว่าอาการเหมือนจะเป็นหวัด เริ่มซึม จาม ไอ หรือน้ำตาไหล ให้ได้เห็นกัน มีนุดคนไหนบ้างที่รีบเสิร์ชหาวิธีการรักษาในโซเชียลทันทีเลย นุดจะรู้กันมั้ยเอ่ยว่าทั้งข้อมูล ความเชื่อที่นุดเห็นและส่งต่อกันผ่านทางโซเชียล ก็อาจจะมีทั้งถูกและผิด วันนี้เราจะมาเคาะกันไปเลยว่าข้อไหนนุดทำตามได้ ข้อไหนห้ามเด็ดขาด จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน


ให้แมวกินวิตามินซีของคน บดผสมกับอาหาร


ได้ยินกันมาบ่อย ๆ ว่าเวลาไม่สบายก็กินวิตามินซีเข้าไปเยอะ ๆ ร่างกายจะได้หายไว ๆ ถ้านุดอยากจะแชร์วิตามินซีให้น้องแมวกินด้วยบ้าง มันจะเป็นอย่างไรนะ คำตอบคือ น้องสามารถกินวิตามินซีได้ค่ะ โดยที่วิตามินซีจะไปช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบภูมิคุ้มกันให้กับน้อง ให้ร่างกายของน้องแข็งแรง สุขภาพดี แต่ไม่ได้ช่วยในการรักษาอาการไข้หวัดแต่อย่างใดค่ะ

โดยปริมาณของวิตามินซีที่น้องสามารถรับได้และเพียงพอคือ 125 กรัมต่อวัน ก็คือหากมีวิตามินซีเม็ดขนาด 1000 กรัม ให้นุดแบ่งออกเป็น 8 ส่วน และใช้เพียงวันละส่วน เอาไปบดผสมอาหารให้น้องได้กินค่ะ

แต่แท้จริงตอนนี้ก็มีวิตามินซีสำหรับแมวโดยเฉพาะด้วยเหมือนกันนะ ซึ่งก็จะเพิ่มความสะดวกให้กับเหล่านุดให้ไม่ต้องมานั่งแบ่งครึ่งยากันให้เสียเวลาด้วย มีทั้งรูปแบบแมวเลีย แบบเม็ด หรือแบบน้ำ ให้เหล่านุดเลือกกันได้เลย



ให้แมวกินยาแก้หวัด ชนิดน้ำของคน


ยาน้ำแก้หวัดของนุดจะมีตัวยาบางชนิดที่สามารถให้น้องกินได้ค่ะ แต่ก็ต้องระมัดระวังถึงเรื่องปริมาณของยาที่นุดจะให้น้องแมวกินด้วย เพราะระบบร่างกายที่แตกต่างกัน ทำให้ปริมาณยาที่ใช้กับนุดแล้วได้ผล อาจจะเป็นปริมาณที่ไม่เหมาะที่จะใช้กับน้องแมวก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนจะใช้ยาน้ำแก้หวัดกับน้อง นุดควรปรึกษากับคุณหมอ เผื่อดูให้ละเอียดถึงส่วนประกอบของตัวยาที่อาจทำให้น้องแมวเกิดอาการแพ้หรือเป็นพิษกับน้องรวมถึงปริมาณที่เหมาะสำหรับน้องแมวแต่ละตัวด้วยค่ะ แล้วก็เหมือนกับวิตามินซีเลยคือจริง ๆ ตอนนี้น้องแมวก็มียาแก้หวัดสำหรับแมวโดยเฉพาะแล้ว ฉะนั้นถ้าจะแก้หวัดให้น้องแมว ก็ควรใช้ของที่ทำมาเพื่อแมวโดยเฉพาะจะดีมากกว่านะ



บดยาพาราของคน ผสมในอาหารเปียกน้องแมว


นุดคนไหนเตรียมจะบดยาพาราเซตามอลให้น้องอยู่ ขอให้หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดทันที วางอุปกรณ์และยาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ สำหรับนุด พาราเซตามอลถูกมองว่าเป็นยาสารพัดประโยชน์ที่แก้ได้ตั้งแต่ความเจ็บปวดไปจนถึงอาการปวดหัว เป็นไข้ แต่ในมุมของน้องแมว ยาพาราไม่ควรเป็นยาที่ให้น้องแมวทานโดยเด็ดขาด รวมทั้งยาอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของพาราเซตมอล หรือที่เรียกว่า อะเซตามิโนเฟน ( Acetaminophen) ด้วย เช่น ไทลินอล ซาร่า ทิฟฟี่ ดีคอลเจน ยาเหล่านี้เป็นยาอันตรายสำหรับน้อง เพราะน้องแมวขาดเอนไซม์ glucuronyl transferase ที่ใช้เปลี่ยนแปลงยาให้อยู่ในรูปแบบที่น้องสามารถกำจัดออกจากร่างกายได้ ทำให้น้องแมวไม่สามารถขับสารที่ได้รับจากพาราเซตามอลออกมาได้ ยาที่น้องกินเข้าไปจึงจะทำให้เกิดภาวะเป็นพิษขึ้นมาค่ะ


ซึ่งความเป็นพิษนี้จะส่งผลตั้งแต่ระบบเลือดทำให้ไม่สามารถขนส่งออกซิเจนได้ และส่งผลไปถึง ตับ ไต ระบบทางเดินอาหาร อาการความเป็นพิษ จะเกิดขึ้นภายใน 4-12 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา โดยอาการที่อาจพบได้ในระยะเริ่มแรก คือ น้ำลายฟูมปาก อาเจียน ซึม หายใจลำบาก เหงือกมีสีคล้ำ อุ้งมือบวม อุ้งเท้าบวม หน้าบวม และเบื่ออาหาร อาการทั้งหลายเหล่านี้จะแสดงหลังได้รับยาเพียง 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นตับอาจเสียหาย ระบบทางเดินอาหารล้มเหลว เริ่มสังเกตเห็นอาการดีซ่าน ชัก โคม่า และเสียชีวิตได้ภายใน 18-36 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นเวลาน้องเป็นหวัด ต่อให้นุดอย่างเราจะกินพาราแล้วหาย แต่ไม่ใช่กับน้องแมวเลย ยาพารามอบฝันร้ายให้กับมันค่ะ นุดควรเก็บพาราไว้ไกลตัวน้องแมวให้มากที่สุดเลยนะ และหากน้องเผลอกินเข้าไป แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม โดยขนาดยาเพียง 45-55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็สามารถทำให้เกิดความเป็นพิษได้ หากน้องเผลอทานก็ให้รีบพาน้องไปหาคุณหมอโดยด่วนที่สุดค่ะ



ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น เช็ดตัวให้แมว


เหล่านุดมักจะนำวิธีการที่ใช้กับคนได้ผล มาลองใช้กับน้องแมวดู อย่างเช่นความเชื่อนี้ที่ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเพื่อเช็ดตัวให้น้อง นุดสามารถเช็ดได้ค่ะ แต่ต้องเป็นกรณีที่น้องมีไข้ ซึ่งอุณหภูมิปกติของน้องจะอยู่ที่ 38 องศา - 39 องศา และไม่ใช่ว่าเช็ดทั้งตัวเหมือนกันกับนุดนะ ปกติเวลาจะเช็ดตัวให้น้องแมว เราจะเช็ดตามบริเวณที่มีความร้อนสะสม เช่น ขาหนีบ ข้อพับ ใบหู และอุ้งเท้า ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้น้องระบายความร้อนออกไปให้มากที่สุด ควรใช้เป็นน้ำอุ่นในการเช็ดตัวให้น้อง ไม่ควรใช้เป็นน้ำเย็น ผ้าที่ชุบน้ำควรจะบิดหมาด ไม่ให้ชุ่มน้ำมากเกินไป และหลีกเลี่ยงอากาศเย็นชื้นขณะเช็ดด้วยนะ เพราะอาจทำให้น้องช็อคได้ค่ะ

ซึ่งโดยปกติแล้วแนะนำเลยว่าเมื่อน้องมีอาการเป็นไข้ นุดควรพาน้องไปหาคุณหมอได้เลย เพราะอาการไข้มีหลายระดับ ร่างกายของน้องแมวแต่ละตัวก็มีความทนต่อไข้ได้แตกต่างกัน ถ้านุดเช็ดตัวแล้ว แต่ไข้ของน้องยังไม่ลด ให้พาน้องไปหาคุณหมอให้เร็วที่สุดทันที เพราะมันค่อนข้างอันตรายกับน้องแมวเป็นอย่างมาก น้องควรได้รับการดูแลจากคุณหมออย่างใกล้ชิดค่ะ




ฟ้าทะลายโจร ผสมน้ำผึ้ง ใส่ในอาหารเปียก


ฟ้าทะลายโจร เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรยอดฮิตที่นุดชอบกินเมื่อมีอาการเป็นหวัด ฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องแมว แต่ไม่ได้ช่วยรักษาให้น้องหายจากอาการเป็นหวัดได้ค่ะ ฟ้าทะลายโจรเพียงช่วยบรรเทาอาการเท่านั้น การที่น้องจะหายจากการเป็นไข้หวัดจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เช่น ความแข็งแรงของน้อง ปริมาณไวรัสหรือแบคทีเรียที่น้องได้รับและระบบภูมิคุ้มกันของน้องว่าดีแค่ไหนค่ะ ซึ่งนุดสามารถให้น้องกินฟ้าทะลายโจรผสมน้ำผึ้ง เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันได้ แต่ควรให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ โดยปริมาณของน้ำผึ้งที่แนะนำคือไม่เกิน 1-2 ช้อนชาต่อวัน ควรเป็นน้ำผึ้งตามธรรมชาติ หรือน้ำผึ้งที่สะอาดและได้มาตรฐานค่ะ




ให้น้องกินยาเขียวตราใบโพธิ์


ยาเขียวตราใบโพธิ์ เป็นยาสมุนไพรตำรับโบราณ ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด มีสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องลดไข้ ลดการอักเสบ การใช้ยาเขียวกับแมวต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้มีสรรพคุณช่วยในการรักษาให้หาย 100% นะคะ นุดให้น้องทานเป็นสมุนไพรเสริมได้ แต่ยังไม่มีงานวิจัยหรือรายงานทางการแพทย์ไหนออกมาชี้วัดว่าการใช้ยาเขียวตราใบโพธิ์กับน้องสามารถรักษาอาการหวัดได้จริงหรือต้องให้น้องทานในปริมาณเท่าไหร่อาการหวัดถึงจะดีขึ้น และยาเขียวบางตัวก็เสี่ยงที่จะมีสารที่เป็นอันตรายต่อน้องแมวปนอยู่ด้วย รวมทั้งร่างกายของแมวที่อาจจะไม่คุ้นชินกับสมุนไพรเหล่านี้ จนอาจเกิดเป็นอาการแพ้ได้ในที่สุด ซึ่งแทนที่น้องจะได้รักษาแค่อาการเป็นหวัด น้องมีโอกาสที่จะป่วยหนักมากกว่าเดิม จนทำให้นุดทาสแมวอย่างเรา เสียทั้งเงินและเวลาไปกับการรักษาอาการของน้องนอกเหนือจากการเป็นหวัด ฉะนั้นการให้น้องกินยาเขียวตราใบโพธิ์จึงเป็นความเชื่อที่เราไม่แนะนำให้นุดทำตามน้า



มีความเชื่อไม่น้อยเลยค่ะที่ถูกส่งต่อกันบนโซเชียลกันแบบผิด ๆ ทำให้เกิดการรับรู้ที่ไม่ถูกต้อง ตัวนุดเองอาจจะไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบที่สุด เพราะผลที่ตามมาจากการเชื่อข้อมูลที่ผิดนั้นจะตกไปสู่น้องแมว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือนุดควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลก่อนที่จะเลือกเชื่อกัน และอย่าลองผิดลองถูกเอง เพราะจากที่อาการไข้หวัดของน้องจะใช้เวลารักษาไม่นาน อาจนำไปสู่การรักษาที่มากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ค่ะ ดังนั้นการรักษาอาการเป็นหวัดที่ปลอดภัยที่สุดคือการพาน้องไปหาคุณหมอค่ะ คุณหมอจะได้วินิจฉัยได้เลยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และสามารถรักษาน้องแมวของนุดได้อย่างตรงจุดและปลอดภัย ช่วยลดระยะเวลารักษาได้อีกด้วย


ความเชื่อต้องเชื่ออย่างมีขอบเขต อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของไข้หวัดเพียงเท่านั้น กับโรคอื่น ๆ นุดก็ควรต้องใส่ใจด้วยเช่นเดียวกัน หมั่นสังเกตพฤติกรรมของน้อง เพราะน้องไม่สามารถพูดบอกกับเราได้ การมอบความรักและการเอาใจใส่ของนุด จะช่วยให้น้องแมวสามารถอยู่เป็นความน่ารักให้โลกใบนี้ไปอีกนานเลยหล่ะ



ซื้อหาเคท แมวเลียเสริมสุขภาพกันได้ที่ SHOPEE | LAZADA

Comments


bottom of page