เดินก็ร้องโอ๊ย นั่งก็ร้องโอ๊ย เหล่านุดอายุมากคนไหนเป็นแบบนี้บ้างแสดงตัวหน่อยค่ะ พออายุมากขึ้นพวกกระดูกและข้อต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทำอะไรแค่นิดหน่อยก็มักจะตามมาด้วยอาการปวดตามข้อต่าง ๆ ให้คอยกินยา กินอาหารเสริม และรักษากันแบบไม่พักเลย ปัญหาพวกนี้ดูจะเป็นเรื่องที่ปกติถ้าจะเกิดกับพวกนุดทั้งหลายใช่มั้ยคะ แต่นุดเชื่อกันรึเปล่าว่าปัญหาเรื่องกระดูกและข้อใช่ว่าจะเกิดแค่กับเหล่านุดเท่านั้นนะ จริง ๆ แล้วน้องแมวของนุดก็สามารถเป็นโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อได้เหมือนกัน โดยเฉพาะแมวแก่ แมวชรา เวลาน้องเป็นโรคน้องจะแสดงออกยังไง มีวิธีที่นุดจะป้องกันได้ไหม วันนี้เราจะมาหาคำตอบให้กับเรื่องนี้กันค่ะ
ปัญหากระดูกและข้อของแมว มาตามวัยเหมือนคน
น้องแมวก็เหมือนกับนุดเลยค่ะ ภายในร่างกายประกอบด้วยกระดูกและข้อต่อมากมาย ข้อต่อเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของน้องเป็นอย่างมาก ทั้งการเดิน วิ่ง ปีนหรือกระโดด เมื่อเวลาผ่านไป น้องอายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกและข้อที่มีการใช้งานมาตลอดก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่เราจะพบได้บ่อยในแมวที่อายุมากคือการเป็นข้อเสื่อมนั่นเองค่ะ
การเสื่อมของข้อต่อในแมว จะเจอได้มากในแมวที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ถ้าให้เทียบกับนุด น้องแมวที่อายุประมาณนี้สามารถเรียกว่าอาม่าได้แล้ว เป็นอาม่าแมวเวอร์ชั่นที่ไม่ได้มีหงอกขาว แต่กระดูกและข้อต่อเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา โดยการเสื่อมของข้อต่อนี้เกิดได้ในทุกจุดที่มีข้อต่อเลยค่ะ ไล่ตั้งแต่หัวเข่า ข้อศอก สะโพก กระดูกสันหลัง ที่พบได้บ่อยคือตรงข้อศอกและสะโพกค่ะ
การเสื่อมของข้อต่อแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเกิดที่จุดไหน ถ้าน้องมีอาการของข้อเสื่อมแล้ว นุดต้องทำใจไว้ก่อนนะว่าน้องจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดหรือกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ สิ่งที่เหล่านุดสามารถทำให้น้องได้คือการชะลอไม่ให้กระดูกและข้อของน้องเสื่อมเร็วขึ้นและการลดความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นกับน้องค่ะ
สังเกตอาการของโรคกระดูกและข้อเสื่อม
ต้องบอกเลยว่าการเป็นข้อเสื่อมของน้องแมวเป็นกลุ่มอาการที่สังเกตได้ด้วยตาเปล่าได้ยากมาก น้องแมวส่วนใหญ่สามารถทนต่อปัญหากระดูกและข้อได้ เนื่องด้วยขนาดตัวที่เล็กและเบา น้องจะไม่แสดงอาการชัดเหมือนในสุนัขและก็ไม่ร้องโอดครวญเหมือนนุดอย่างเรา น้องบางตัวจะไม่มีการส่งเสียงร้องหรือแสดงอาการออกมาให้นุดได้เห็นเลย น้องยังคงร่าเริง กินข้าวได้ตามปกติ เดินก็ปกติ ไม่มีกะเผลกให้เห็น
แต่สิ่งที่ทำให้นุดรับรู้ได้ว่าน้องอาจจะเป็นโรคข้อเสื่อมคือการพาน้องมา ตรวจสุขภาพประจำปี ค่ะ หรือถ้าน้องที่เป็นมากขึ้นจริง ๆ ก็จะแสดงอาการออกมามากขึ้น เช่น น้องจะมีอาการสะดุ้งหรือส่งเสียงร้องเวลานุดไปจับโดนตรงบริเวณที่มีปัญหา หรือเดินเจ็บขา เดินกะเผลก เวลาเข้ากระบะทรายและนั่งยองเพื่อฉี่หรืออึ น้องจะขาสั่น ๆ หรือเวลาที่น้องต้องออกแรง น้องจะมีอาการลุกนั่งลำบาก น้องแมวบางตัวก็จะเริ่มเดินน้อยลง ขยับตัวน้อยลง น้องจะพยายามลุกเดิน วิ่ง กระโดดให้น้อยที่สุด ดู ๆ แล้วน้องไม่อยากทำอะไรเลยตลอดวัน เพราะว่าน้องไม่อยากจะเจ็บข้อที่มีปัญหา ถ้าเหล่านุดสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ อย่าพึ่งคิดไปเองเด็ดขาดว่าเป็นเพราะนิสัยของน้องหรือเพราะน้องแก่แล้วเลยไม่อยากขยับตัวเยอะ น้องอาจจะกำลังส่งสัญญาณบางอย่างให้กับนุดได้รับรู้อยู่ก็เป็นได้ อยากให้รีบพาน้องไปพบคุณหมอก่อน เพื่อตรวจวินิจฉัยให้เร็วที่สุดนะคะ
ทำอย่างไรเมื่อน้องเป็นข้อเสื่อม
อย่างที่บอกไปว่าเมื่อน้องเป็นข้อเสื่อมแล้ว จะไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้อีก เพราะในปัจจุบันยังไม่มีการรักษาไหนที่สามารถรักษาโรคข้อเสื่อมได้อย่างตรงจุดและหายขาด แต่ว่าเราสามารถชะลอไม่ให้ข้อต่อเสื่อมเร็วขึ้นและลดความเจ็บปวดที่จะเกิดกับน้องได้ มีตั้งแต่การควบคุมน้ำหนัก การให้น้องกินอาหารเสริมควบคู่ไปกับการกินยาเพื่อลดความเจ็บปวดต่าง ๆ การทำกายภาพบำบัด การผ่าตัด ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของน้อง อายุ และระดับของความรุนแรงด้วยว่าเป็นมากขนาดไหน ซึ่งถ้าคุณหมอตรวจพบได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะสามารถยืดเวลาไม่ให้ข้อต่อของน้องเสื่อมและดูแลไม่ให้น้องเจ็บปวดได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ถ้าตรวจเจอในระยะแรก ๆ ก็จะเป็นการให้ทานอาหารเสริมควบคู่ไปกับการทานยา ตามคำแนะนำของคุณหมอค่ะ
ดูแลน้องแมว ให้ห่างไกลโรคกระดูกและข้อ
การดูแลน้องแมวให้ห่างไกลจากโรคกระดูกและข้อ มี 3 ข้อง่าย ๆ ที่อยากให้นุดให้ความสำคัญและทำเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของน้องและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของน้อง เช่น น้องบางสายพันธุ์ที่มีขนเท้าค่อนข้างยาว นุดต้องคอยเล็มขนเท้าให้สั้นอยู่เสมอ และต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับน้องด้วยนะคะ อย่างพื้นบ้านก็อย่าให้ลื่นมากนัก โดยเฉพาะกับพื้นกระเบื้องหรือพื้นปูน ที่น้องสามารถลื่นล้มและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จุดนี้นุดอาจจะปูเป็นพื้นยางหรือเป็นเสื่อกันลื่นตรงบริเวณที่น้องชอบอยู่บ่อย ๆ เวลาน้องเดินจะได้ไม่ลื่นล้มได้ ตำแหน่งของที่นอน ชามอาหาร กระบะทรายของน้องก็ควรอยู่ในพื้นที่ที่น้องสามารถเดินไปได้ง่ายด้วย ตัวกระบะทรายก็ไม่ควรสูงเกินไป เลือกกระบะทรายที่ตื้น น้องจะได้ไม่ต้องก้าวสูงเกินไปค่ะ อีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของการกระโดด น้องแมวกับการกระโดดเป็นของคู่กันอยู่แล้ว อยากแนะนำให้จำกัดการกระโดดของน้องให้ได้มากที่สุดค่ะ ตรงจุดไหนที่เป็นจุดที่น้องชอบกระโดดขึ้นหรือกระโดดลงบ่อย ๆ นุดอาจจะทำให้จุดนั้นเตี้ยลงหรือทำเป็นทางลาดหรือบันไดไปเลยก็ได้นะ น้องแมวจะได้เคลื่อนไหวได้ง่ายมากขึ้น ไม่กระทบกับข้อบ่อย ๆ ด้วย
พาน้องไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและคอยหมั่นสังเกตน้องอยู่เสมอ แมวอายุเยอะมากเท่าไหร่ การตรวจสุขภาพยิ่งเป็นเรื่องสำคัญนะคะ โดยเฉพาะกับโรคข้อเสื่อมที่ไม่แสดงอาการด้วยแล้ว ตรวจเจอได้เร็วเท่าไหร่ นุดจะได้เตรียมตัวได้ทันค่ะ เพราะถ้าปล่อยปละละเลยไป ไม่พาน้องมาตรวจตามเวลา ถ้าพาน้องมาตรวจอีกที น้องอาจจะเจอภาวะที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้นะคะ
การให้สารอาหารบำรุงร่างกายเพื่อให้ชะลอการเกิดข้อเสื่อม ก็คือการเสริมพวกสารเสริมที่ช่วยบำรุงข้อนะคะ หลัก ๆ จะมีเป็นกลุ่มที่เป็นคอลลาเจนหรือว่ากลุ่มกลูโคซามีน ซึ่งนุดสามารถปรึกษาคุณหมอได้เลยว่าสารอาหารตัวไหนที่เหมาะกับน้องบ้าง หรือว่าสารอื่น ๆ ก็อาจจะมีการเสริมแคลเซียมให้น้องได้ด้วย เพราะว่าการที่ข้อเสื่อมมันก็จะเกี่ยวกับเรื่องกระดูกและก็น้ำไขข้อด้วยค่ะ
ในเมื่อโรคข้อเสื่อมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
การกินอาหารเสริมจะมาช่วยในจุดไหนกันหล่ะ ?
เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าอาหารเสริมในกลุ่มที่บำรุงข้อมันจะมีหลายตัว แต่ว่าในเรื่องของกระดูกและข้อจะเกี่ยวข้องกับคอลลาเจนเป็นหลัก เพราะปกติแล้วคอลลาเจนจะพบได้มากตามกระดูกและข้อต่อ และร่างกายของน้องปกติจะสามารถสร้างคอลลาเจนเองได้ แต่พออายุมากขึ้น คอลลาเจนก็ถูกสร้างน้อยลง น้องบางตัวคอลลาเจนก็หยุดสร้างไปเลย พอกระดูกและข้อต่อขาดคอลลาเจน กระดูกและข้อต่อจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่จนทำให้เกิดอาการเสื่อมตามมาได้นั่นเอง ดังนั้นการเสริมคอลลาเจนเข้าไป บทบาทของมันคือเหมือนไปเสริมเนื้อเยื่อตรงกระดูกและข้อต่อให้แข็งแรงขึ้น ลดแรงเสียดทานจากการเคลื่อนไหวของน้อง ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด การวิ่งเล่น เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมในอนาคตได้
ส่วนการเสริมตัวแคลเซียมก็เหมือนกับนุดเลยนะ แคลเซียมเป็นอีกสารที่สำคัญต่อกระดูกและข้อต่อ อย่างเวลานุดอายุเยอะ ๆ เป็นอาม่าหรือนุดสูงวัย ก็จะมีปัญหาเรื่องกระดูกบาง กระดูกพรุน ข้อปวด ข้อเสื่อมกันใช่มั้ยหล่ะ การเสริมแคลเซียมมันก็จะทำให้ตัวข้อและกระดูกแข็งแรงขึ้นค่ะ
ยิ่งในปัจจุบันมีอาหารเสริมกระดูกและข้อที่ได้ประสิทธิภาพสูงอยู่เป็นจำนวนมาก อาหารเสริมแต่ละตัวก็จะถูกออกแบบมาให้น้องกินได้เป็นระยะเวลานาน แล้วก็ปลอดภัยต่อตับต่อไตของน้องแมวในระยะยาว อย่างเช่น CATE™ COAT AND SKIN Creamy Snacks Tuna and Collagen และ CATE™ BONE SUPPORT Creamy Snacks Tuna and Salmon ขนมแมวเลียครีมมี่ 2 สูตร ที่มีส่วนผสมที่สำคัญต่อกระดูกและข้ออย่าง คอลลาเจนและแคลเซียม ขนมทั้ง 2 สูตรนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกและข้อต่ออย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและชะลอการเสื่อมได้ในอนาคต เป็นอาหารเสริมที่น้องทานได้ง่าย สามารถเลียกินได้ทุกวันเลยค่ะ
ถึงแม้รวม ๆ แล้วโรคข้อเสื่อมของน้องแมว อาจจะเป็นโรคที่ดูเป็นภัยเงียบและน่ากลัว คงไม่มีนุดคนไหนอยากเห็นน้องไม่สดใสและมีปัญหาในช่วงอายุที่มากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาใจใส่และให้ความรักกับน้องให้มากที่สุด หมั่นสังเกตพฤติกรรมของน้อง จัดสภาพแวดล้อมรอบตัวน้องให้เหมาะสม หมั่นพาน้องไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ถ้าน้องส่งสัญญาณผิดปกติเมื่อไหร่ก็ให้พาน้องไปพบคุณหมอทันที และเสริมสร้างความแข็งแรงด้วยการให้น้องกินอาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนและแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมในทุก ๆ วัน เพื่อที่กระดูกและข้อของน้องจะได้แข็งแรง ชะลอการเกิดความเสื่อมในร่างกายของน้อง ลดการเจ็บป่วยในการใช้ชีวิต ให้น้องอยู่กับเราอย่างมีความสุขไปอีกนานแสนนานเลย
ไม่เพียงแต่เรื่องของกระดูกและข้อเท่านั้นนะคะ เรายังมีเรื่องราวดี ๆ และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับน้องแมวอีกมากมายที่จะแชร์ให้เหล่านุดได้ติดตามและเรียนรู้กัน ถ้าอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง อย่าลืมมาติดตามได้ทางเพจแมวล้วน ๆ by CATE กันนะ
コメント